ไวน์ แอลกอฮอล์ กี่เปอร์เซ็นต์ ควรกินไวน์ให้ในปริมาณที่พอเหมาะ
ความเข้มข้นแอลกอฮอล์ของไวน์มีผลกระทบต่อรสชาติและลักษณะของไวน์ แต่ควรจำไว้ว่าความเข้มข้นแอลกอฮอล์ไม่ใช่ปัจจัยที่เดียวที่มีผลต่อรสชาติ ความหวาน และกลิ่นหอมของไวน์ รสชาติและกลิ่นหอมนี้มักมาจากสายพันธุ์องุ่น กระบวนการผลิต การกินไวน์เยอะจนเมาขึ้นขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ที่คุณบริโภคและความสามารถในการควบคุมการดื่มของคุณเองแอลกอฮอล์ในไวน์มีผลกระทบต่อร่างกายและสติ การกินไวน์เป็นประจำและในปริมาณที่มากสามารถทำให้คนเมา โดยมีความผิดปกติในพฤติกรรมและการตัดสินใจ เราไม่แนะนำให้กินไวน์เป็นประจำในปริมาณมากหรือเข้าสู่สภาวะเมาอย่างไม่มีสติ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัย
ระดับแอลกอฮอล์ในไวน์และการเลือกใช้
ระดับแอลกอฮอล์ในไวน์
ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีประสิทธิภาพและหลากหลาย แต่สิ่งที่คุณอาจสงสัยคือระดับ ไวน์แอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์ และความหมายของมันคืออะไร? ในบทความนี้เราจะสอนคุณเกี่ยวกับระดับแอลกอฮอล์ในไวน์และว่าควรพิจารณาอะไรเมื่อคุณเลือกใช้ไวน์
ไวน์มีแอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์ สำหรับไวน์ทั่วไป ระดับแอลกอฮอล์อยู่ในช่วงประมาณ 11% – 15% โดยประมาณ 1 กิโลแอลกอฮอล์ในน้ำหนักไวน์เท่ากับ 10% ของระดับแอลกอฮอล์. แต่ระดับนี้อาจมีความแตกต่างขึ้นกับประเภทและสายพันธุ์ของไวน์
ประเภทของไวน์และระดับแอลกอฮอล์
ครื่องดื่มไวน์ แต่ละชนิดมีระดับ เปอร์เซ็นต์ แอลกอฮอล์ ที่แตกต่างกันไปตามประเภทของไวน์ ดังนี้ระดับแอลกอฮอล์ในไวน์มีความแตกต่างกันไปตามประเภทของไวน์และวิธีการผลิต ดังนี้
- ไวน์ขาว (White wine) : มักมีระดับแอลกอฮอล์ประมาณ 11% – 13% โดยปกติแต่ก็มีไวน์ขาวที่มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำกว่านี้หรือสูงกว่านี้ได้อย่างเช่น ไวน์หวานมักมีระดับแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 12%
- ไวน์แดง (Red wine) : ไวน์แดงมีแอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์ มักมีระดับ แอลกอฮอล์ ประมาณ 12% – 15% โดยปกติ ไวน์แดง ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงมักเป็นไวน์ที่แข็งแรงและเข้มข้นมากขึ้น
- ไวน์โรเซ่ : มักมีระดับแอลกอฮอล์ประมาณ 12% – 13% โดยปกติ ไวน์โรเซ่มักมีลักษณะรสชาติที่สดชื่นและเบาบาง
- สปากิ้งไวน์ (Sparkling wine) : ระดับแอลกอฮอล์ในไวน์ขึ้นรูปอาจแตกต่างกันไป โดยทั่วไปไวน์ขึ้นรูปมักมีระดับแอลกอฮอล์ประมาณ 11% – 13%
- ไวน์หวาน (Sweet wine) : ระดับแอลกอฮอล์ในไวน์หวานอาจค่อนข้างต่ำ โดยมักอยู่ในช่วง 7% – 12% โดยปกติ เนื่องจากไวน์หวานมักมีการหยุดการหมักน้ำตาลก่อนเต็มที่
ค่าแอลกอฮอล์ที่ระบุข้างต้นเป็นค่าประมาณและอาจแตกต่างกันไปตามผู้ผลิตและสภาวะการผลิต หากคุณต้องการทราบรายละเอียดแน่นอนเกี่ยวกับระดับแอลกอฮอล์ในไวน์ที่คุณสนใจ ควรตรวจสอบบนป้ายประกาศของขวดไวน์หรือติดต่อผู้ผลิตเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมได้
การเลือกใช้ไวน์และระดับแอลกอฮอล์
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม การเลือกใช้ไวน์และระดับแอลกอฮอล์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความพร้อมของคุณ ระดับแอลกอฮอล์ของไวน์มีผลต่อรสชาติและสไตล์ของไวน์นั้น ๆ และสามารถแสดงถึงความเข้มข้นของเครื่องดื่มได้ด้วยดี ดังนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณา
- รสชาติและความชอบส่วนตัว: รสชาติของไวน์มีความแตกต่างกันตาม ระดับแอลกอฮอล์ กี่เปอร์เซ็นต์ ไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำ (ต่ำกว่า 12%) มักมีรสชาติที่บอบบางและสดชื่น ส่วนไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูง (15% ขึ้นไป) มักมีรสชาติที่หนักและเข้มข้นมากขึ้น ดังนั้นควรพิจารณาความชอบส่วนตัวของคุณในรสชาติและระดับแอลกอฮอล์ที่คุณชื่นชอบ
- โอกาสและสถานที่: สำหรับงานเลี้ยงหรือเทศกาลที่คุณต้องการเครื่องดื่มที่สดชื่นและเหมาะสำหรับการสนทนา ไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำอาจเป็นตัวเลือกที่ดี ในขณะที่สำหรับโอกาสหรือเทศกาลที่มุ่งหวังเครื่องดื่มที่เข้มข้นและเป็นพิเศษ ไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- อาหาร: การเลือกไวน์ควรคำนึงถึงอาหารที่คุณจะรับประทานด้วย เนื่องจากความคมชัดของไวน์สามารถเสริมรสชาติของอาหารได้ ไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงมักเหมาะกับอาหารที่มีรสชาติเข้มข้นและความเป็นมัน เช่น เนื้อสตีกหรืออาหารหมักแบบเสิร์ฟ
- สุขภาพและความประหยัด: การบริโภคไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงมากๆ อาจมีผลต่อสุขภาพของคุณ และควรระมัดระวังเพื่อป้องกันการดื่มเป็นจำนวนมาก. นอกจากนี้ ไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงมักมีราคาสูงกว่าไวน์ที่มีระดับแอลกอฮอล์ต่ำ ดังนั้นควรพิจารณางบประมาณของคุณด้วย
- ความเข้มข้นและการควบคุมการดื่ม: ความเข้มข้นของไวน์มีผลต่อความเสี่ยงของคุณในการดื่มมากๆ ดังนั้นควรคำนึงถึงความสามารถในการควบคุมการดื่มและระดับแอลกอฮอล์ของไวน์ที่คุณเลือก
Credit : allaboutwinery.com
บทความเพิ่มเติม : ไวน์ฝรั่งเศส