ไวน์ รอบรู้เรื่องไวน์และประเภทของไวน์ที่ยอดนิยมของคนทั่วโลก
ไวน์ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมมานานหลายศตวรรษ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งในปัจจุบัน ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีความหลากหลายในรสชาติและกลิ่นตามสายพันธุ์และพื้นที่ปลูกองุ่นการผลิตไวน์ก็เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่มีการศึกษาและการพัฒนาต่อเนื่อง ทำให้น้ำตาลในองค์ประกอบเปลี่ยนแปลงเป็นแอลกอฮอล์ซึ่งกระบวนการผลิต การ ทํา ไวน์ อยู่ในกระบวนการจากธรรมชาติ ไวน์มีมากมายหลากหลายประเภท นำความสุขมาสู่งานสังสรรค์และเพิ่มรสชาติให้กับงานเฉลิมฉลอง นอกจากรสชาติและกลิ่นหอมแล้ว ไวน์ยังเป็นที่รู้จักในด้านประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ทำให้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เปิดเผยคววามรู้ประโยชน์ต่อสุขภาพ กระบวนการ ผลิต ไวน์ และทำความเข้าใจกับไวน์ประเภทต่างๆ ประเภท ของ ไวน์ ที่มีจำหน่ายว่าแต่ละประเภทมีแบบไหนที่ทุกคนควรต้องรู้
กินไวน์แล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านใดบ้าง
ประโยชน์ ของ ไวน์ ไวน์เป็นเครื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ยอดฮิตของคนทั่วโลก กิน ไวน์ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่รู้หรือไม่ว่าการดื่มไวน์ควรมีความมีสติและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม มีประโยชน์มากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่นำความสุข แต่ยังช่วยบรรเทาลดความเสี่ยงจากโรค ส่งผลดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนการดื่มไวน์หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือการใช้ยาประจำวัน
สุขภาพหัวใจ
ไวน์ โดยเฉพาะไวน์แดง มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ การบริโภคไวน์แดงในระดับการดื่มไวน์อย่างมีส่วนสูงหรือกลางๆช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่มีไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) หรือที่เรียกว่าคอเลสเตอรอล “ดี” นอกจากนี้ การมีสารต้าน อนุมูลอิสระ เช่น เรสเวอราทรอล ในไวน์แดงอาจช่วยให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น
- ไวน์ สามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจในบางกรณี แต่ควรระมัดระวังในการบริโภคเพราะอาจมีผลกระทบทางสุขภาพอื่นๆ ดังนั้น ควรคำนึงถึงปริมาณการดื่มและประสิทธิภาพของการรับประทานไวน์ให้ถูกต้อง
- ไวน์แดงอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ โดยช่วยเสริมสร้างหลอดเลือด ลดการอักเสบ และควบคุมความดันโลหิต ควรระมัดระวังไม่ให้รับประทานไวน์ในปริมาณที่เกินกว่าที่เหมาะสม และควรปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาสุขภาพหัวใจหรือยาที่ต้องรับประทาน.
- การรับประทานไวน์สามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจในบางกรณี แต่ควรคำนึงถึงปริมาณการบริโภคและประสิทธิภาพของการรับประทานไวน์ รวมถึงปัจจัยสุขภาพทั่วไป
สารต่อต้านอนุมูลอิสระ
ไวน์ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่าแอนติออกซิแดนต์ (Antioxidants) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยปกป้องเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเผาไหม้ภายในร่างกาย แอนติออกซิแดนต์ทำหน้าที่ในการกำจัดอนุมูลอิสระเหล่านี้ เพื่อป้องกันการทำลายเซลล์ และเนื้อเยื่อที่อาจเกิดขึ้นจากความเสียหายนี้
- การรับประทานไวน์อย่างสม่ำเสมอและในปริมาณที่เหมาะสมอาจมีประโยชน์ในการส่งเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ โดยเฉพาะไวน์แดงที่มีรสชาติอันเปรี้ยว
- สำหรับผู้ที่เลือกดื่มไวน์เพื่อผลประโยชน์ทางสุขภาพ ควรให้ความสำคัญกับปริมาณการบริโภค เพราะการดื่มเป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพ
- ควรปฏิบัติตามแนวทางการบริโภคที่มีประโยชน์และแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ อย่างเช่น การรับประทานไวน์ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายที่เหมาะสม.
การทำงานของสมอง
การศึกษาแนะนำว่าการบริโภคไวน์ในระดับปานกลางอาจส่งผลดีต่อการทำงานของสมอง เรสเวอราทรอลที่พบในไวน์แดงอาจช่วยปกป้องเซลล์ประสาทและปรับปรุงสุขภาพสมอง ลดความเสี่ยงของการลดลงของความรู้ความเข้าใจเมื่อเรามีอายุมากขึ้นอย่างไรก็ตาม การบริโภคไวน์ในปริมาณที่เหมาะสมอาจมีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมในอนาคตดังนั้น การรับประทานไวน์ควรเป็นอย่างมีสติและคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพและการทำงานของสมอง
ช่วยชะลอความแก่
ไวน์ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนช่วยชะลอกระบบการเสื่อมสภาพของร่างกายในบางกรณี หากจำเป็นต้องเข้าใจว่าผลกระทบของไวน์ต่อกระบวนการเสื่อมสภาพร่างกายนั้นยังไม่ได้ถูกพิสูจน์และไม่เหมาะสมสำหรับทุกคน ดังนั้นการรับประทานไวน์เพื่อชะลอความแก่ควรคำนึงถึงปริมาณและความเหมาะสมให้เหมาะสม
ขั้นตอนกระบวนการผลิตไวน์
การผลิต ไวน์ ไม่ใช่เรื่องง่าย การทำไวน์ให้ออกมามีรสชาติที่ดี จะต้องมีการพิธีพิถ้นการที่พมีขั้นตอนการผลิตที่พิถีพิถันและต้องเชี่ยวชาญในด้าน การ หมัก ไวน์ กระบวนหรือกระบวนการ ทำ ไวน์ เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีขั้นตอนหลายขั้นตอน เพื่อสกัดสารอาหารที่อยู่ในผลไม้เพื่อทำให้ได้น้ำองุ่น และมีรสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การผลิตไวน์จะมีขั้นตอนดังนี้
การเก็บเกี่ยวองุ่น (Harvesting)
ไวน์ องุ่น การผลิตไวน์เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกและเก็บเกี่ยวองุ่นอย่างระมัดระวัง ช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นตัวกำหนดระดับน้ำตาลและกรดในองุ่น ซึ่งส่งผลต่อรสชาติให้ของตัวไวน์ให้ออกมาคุณภาพดีที่สุด
การหมัก (Fermentation)
การหมักไวน์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการผลิตไวน์ เป็นขั้นตอนที่นำน้ำองุ่นมาเกิดการหมัก เมื่อน้ำองุ่นถูกหมักแล้ว น้ำตาลในองค์ประกอบของผลไม้จะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ ในระหว่างการหมัก ยีสต์จะเปลี่ยนน้ำตาลองุ่นให้เป็นแอลกอฮอล์ การเลือกยีสต์และระยะเวลาการหมักจะส่งผลต่อรสชาติ เนื้อสัมผัส และความหวานของไวน์และถูกกรองเก็บไว้ในการบ่ม
เมื่อกระบวนการหมักเสร็จสิ้น น้ำองุ่นจะเปลี่ยนเป็นไวน์ แต่อาจมีกลิ่นและรสชาติของเชื้อสายพันธุ์ที่เหลืออยู่ ดังนั้นในขั้นตอนนี้ความสำคัญของการแย่งกลิ่นและรสชาติจะทำให้ได้ไวน์ที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดี
การคั้นน้ำ (Wine Bottling)
การคั้นน้ำไวน์เป็นกระบวนการที่ใช้ในการกำจัดสิ่งแข็งที่อยู่ในน้ำไวน์ เพื่อให้ได้น้ำไวน์ที่บรรจุตัวในขวดหรือโอ่งในสภาพที่ใสและไม่มีส่วนขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเก็บรักษานาน เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว องุ่นจะถูกบดเพื่อปล่อยน้ำออกมา สำหรับไวน์ขาว องุ่นจะถูกบีบเพื่อแยกน้ำออกจากเปลือกและเมล็ด สำหรับไวน์แดง องุ่นที่บดแล้วรวมทั้งหนังบนผิวองุ่นและเมล็ดจะถูกใช้ในกระบวนการหมัก
การบ่ม (Crushing)
หลังจากการหมัก กระบวนการหมักไวน์นั้นจำเป็นต้องควบคุมและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดโดยนักทำไวน์ เพื่อให้ได้รสชาติและลักษณะที่ต้องการ หลังจากที่กระบวนการบ่มไวน์เสร็จสิ้นแล้ว ไวน์จะถูกบ่มในภาชนะต่างๆ เช่น ถัง หมัก ไวน์ ถัง สแตนเลส การบ่มทำให้ไวน์จะพัฒนาให้ตัวไวน์มีลักษณะเฉพาะ ทำให้สามารถพัฒนารสชาติและกลิ่นเฉพาะของตัวไวน์ได้ เพื่อให้ไวน์มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด
ประเภทของไวน์
ทุกท่านรู้หรือไม่ว่า เครื่องดื่มไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีความหลากหลายทั้งรูปแบบและรสชาติที่แตกต่างกันไป แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมไวน์แต่ละยี่ห้อถึงมีรสชาติ และสี ราคา ที่แตกต่างกันไป ประเภท ไวน์ สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้งประเภทสายพันธุ์ องค์ประกอบที่ใช้ในการผลิตและ วิธีการผลิต และลักษณะคุณลักษณะที่สำคัญของไวน์ อะไรคือความแตกต่างของไวน์แต่ละชนิดบ้าง นี่คือหนึ่งในกลุ่มของไวน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ไวน์แดง
ไวน์ องุ่น ไวน์ที่ผลิตจากองุ่นสีแดง ในกระบวนการผลิตไวน์แดง น้ำองุ่นและเปลือกผลองุ่นสีแดงจะถูกใช้ในกระบวนการหมัก ทำให้เชื้อสายยีสต์แปรรูปน้ำองุ่นเป็นแอลกอฮอลและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ได้ไวน์แดงโดยไวน์แดงมี แทนนิน จะทำให้เวลาจิบไวน์จะทำให้เกิดอาการขม ไวน์แดงบางสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Cabernet Sauvignon, Merlot และ Pinot Noir
การเลือกไวน์แดงที่เหมาะสมอยู่ที่ความชอบของแต่ละคน สามารถเลือกไวน์แดงตามสไตล์ที่ต้องการ เช่น หวาน จืด หรือเปรี้ยว ไวน์ แดง ที่ ดี ที่สุด สามารถรับประทานไวน์แดงคู่กับอาหารที่ต้องการตามความคิดที่มีในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้เกิดความสนุกสนานในการรับประทานอาหาร
ไวน์ขาว
ไวน์ขาวมักทำจากองุ่นขาวสีเขียวหรือสีเหลือง และเปลือกจะถูกแยกออกจากน้ำก่อนการหมัก Chardonnay, Sauvignon Blanc และ Riesling ซึ่งจะมีรสชาติเปรี้ยวหวาน ไวน์ขาวเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นสำหรับในการกินไวน์ไวน์ขาวมีลักษณะความหอมและรสชาติที่หลากหลาย
ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทขององุ่นการหมัก เชื้อสายยีสต์ที่ใช้ และเทคนิคการผลิต รสชาติของไวน์ขาวอาจเป็นไปตามแนวทางของผลไม้สดชื่น เช่น ส้ม ลำไย และสตรอเบอร์รี่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของดอกไม้ ผลไม้แก่ หรือผลไม้เข้มข้น เช่น มะนาว ที่อาจมาจากกระบวนการการหมักหรือการคั้นน้ำไวน์ไวน์ขาวมักมีความเบาสบายและเปรี้ยวกึ่งเปรี้ยว
ทำให้เป็นไวน์ที่เป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อนและเหมาะสำหรับการรับประทานในงานอาหารหลากหลายชนิด การเลือกไวน์ขาวที่เหมาะสมอยู่ที่ความชอบและประสบการณ์การรับประทานของแต่ละคน เพราะไวน์ขาวมีความหลากหลายในเรื่องของรสชาติและสไตล์ที่เหมาะสมกับบริบทและโอกาสต่างๆ
ไวน์โรเซ่
เป็นประเภทหนึ่งของไวน์ที่ผลิตจากองุ่นไวน์โรเซ่เป็นประเภทหนึ่งของไวน์ที่มีฟองอากาศ ซึ่งเกิดจากการหมักและคั้นน้ำไวน์ด้วยการใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะการคั้น ทำให้เกิดก๊าซซึมลงในน้ำไวน์และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างฟองอากาศในน้ำไวน์
ผลลัพธ์ที่ได้คือไวน์ที่มีฟองอากาศภายในน้ำไวน์ ไวน์โรเซ่มีลักษณะเปรี้ยวหรือหวาน และมีความหอมหวานของผลไม้ ดอกไม้ หรือสมุนไพร การเลือกไวน์โรเซ่ขึ้นอยู่กับความชอบและบริบทของการใช้งาน เช่น ไวน์โรเซ่สีชมพูสามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับงานเลี้ยงหรือเทศกาล ส่วนไวน์โรเซ่สีขาวอาจเหมาะกับการรับประทานอาหารทะเลหรืออาหารเนื้อที่เบาบาง
สปาร์คกลิ้งไวน์
สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) เป็นประเภทของไวน์ที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในน้ำไวน์ทำให้เกิดฟองอากาศ สปาร์คกลิ้งไวน์ส่วนใหญ่ถูกผลิตด้วยวิธี “แมโธดชาเมปญ่า” (Méthode Champenoise) หรือ “แมโธดทราดิชันแนล” (Traditional Method) ซึ่งเป็นกระบวนการที่คั้นน้ำไวน์สำหรับสปาร์คกลิ้งไวน์โดยการเพิ่มเชื้อสายยีสต์และน้ำตาลเพื่อให้เกิดกระบวนการหมักที่จะทำให้เกิดแอลกอฮอลและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ส่งผลให้ไวน์มีลักษณะฟองฟูและมีรสชาติสดชื่นเปรี้ยวหรือหวานอย่างเป็นที่นิยมในการรับประทานในโอกาสต่าง ๆ กลิ้งไวน์เป็นที่นิยมในงานฉลอง เทศกาล และโอกาสพิเศษต่าง ๆ สปาร์คกลิ้งไวน์มีหลากหลายรสชาติและคุณสมบัติ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทขององุ่นและวิธีการผลิต สปาร์คกลิ้งไวน์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่มาจากเอฟรานซ์ (Champagne) ของประเทศฝรั่งเศส แต่ยังมีการผลิตที่หลายแห่งอื่นทั่วโลก อย่างเช่น โพรเซ็กโต อิตาลี เปรู และนิวซีแลนด์
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ไวน์เป็นที่นิยมของคนจำนวนมาก แต่จะมีข้อเฉพาะ กินไวน์ดีไหม ไวน์ไม่เหมาะกับบุคคลบางกลุ่ม เช่น สตรีมีครรภ์ ผู้ที่ติดแอลกอฮอล์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะรวมไวน์ไว้ในอาหารของคุณ
การบริโภคไวน์ในระดับปานกลางมักหมายถึงหนึ่งแก้ว (5 ออนซ์) ต่อวันสำหรับ ผู้หญิงดื่มไวน์ และมากถึงสองแก้ว (10 ออนซ์) ต่อวันสำหรับผู้ชาย ถ้าดื่มในปริมาณมากกว่าที่กำหนดไว้ จะส่งผลให้เปิดเป็นโรคตับแข็งได้
แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นจะชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงในเชิงบวกระหว่างการบริโภคไวน์ในระดับปานกลางกับสุขภาพของหัวใจ แต่ก็ไม่ใช่มาตรการป้องกันโรคหัวใจที่รับประกันได้ อาหารที่สมดุลและการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ไวน์แดงแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะเฉพาะเพราะมาจากแต่ละภูมิภาค ทำให้ รสชาติ และกลิ่นที่แตกต่างกัน การเลือกองุ่นและกระบวนการผลิตไวน์อาจส่งผลให้รสชาติเปลี่ยนไปอย่างมาก
เครื่อง ดื่ม ไวน์ ควรเก็บให้ผลจากแสงแดดเพื่อรักษาคุณภาพของไวน์ ควรให้เก็บขวดไวน์ไว้ในแนวนอนในที่เย็นและมืดซึ่งต้องมีอุณหภูมิสม่ำเสมอ ในการเก็บรักษาไวน์อุณหภูมิทั่วไปที่แนะนำจะอยู่ที่ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส หลีกเลี่ยงความผันผวนของอุณหภูมิและการเปิดรับแสงมากเกินไป